รถยนต์ไฟฟ้ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไร
http://www.electronicdesign.com/power/electric-vehicle-charging-opens-new-avenues-semiconductors
ปัจจุบันมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่หันมาสนใจรถยนต์พลังงานทางเลือก อย่างรถยนต์ไฟฟ้า (AV) ที่มีค่ายดังได้คิดค้นเรื่องเครื่องยนต์และดีไซน์รูปลักษณ์ออกมาได้อย่างสวยงาม พร้อมให้ประโยชน์ในการใช้สอยที่ดีเกือบเทียบเท่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเลยทีเดียว ถือว่าเป็นเทคโนโลยีทางเลือกที่มีการคิดค้นและผลิตออกมาอย่างเป็นรูปร่างได้สำเร็จ ไม่ใช่นวัตกรรมที่เป็นเพียงแค่ความฝันอีกต่อไป ซึ่งในค่ายรถยนต์ชื่อดังทั้งทางยุโรปและเอเชีย ต่างก็พากันนำรถยนต์ไฟฟ้าตัวอย่างมาอวดโฉมกันภายในงานเปิดตัวของค่ายตัวเอง เพื่อเป็นการประกาศให้ผู้ซื้อได้รู้ว่าทางค่ายมีศักยภาพเพียงพอที่จะผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าออกมาให้ใช้งานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้จะดูว่าน่าสนใจแต่เราก็ต้องยอมรับว่ารถยนต์ไฟฟ้าก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่อาจจะยังต้องให้ผู้ซื้อตัดสินใจต่อไป
ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าคือ
1.ประหยัดค่าน้ำมัน
การใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงลงได้มาก และช่วยกู้วิกฤตขาดแคลนน้ำมันหรือน้ำมันราคาแพงได้ดี ราคาไฟฟ้าที่ชาร์จเข้าสู่ตัวรถยนต์นั้นก็ไม่สูงเท่ากับน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย
2.ลดโลกร้อนได้ดี
การใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และคาร์บอนมอนน๊อกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ เพราะไม่ได้ใช้น้ำมันและไม่มีการเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ จึงช่วยลดมลพิษในอากาศได้ดีและลดสภาวะเรือนกระจกได้ถึง 47% เลยทีเดียว
3.ช่วยชาติประหยัด
เมื่อไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมัน ประเทศไทยก็สามารถลดการสั่งจำนวนน้ำมันดิบที่นำเข้าจากนอกประเทศ จึงจะช่วยส่งผลให้เศรษฐกิจภายในประเทศดีขึ้นและเกิดการใช้จ่ายที่คล่องตัวมากกว่าเดิม พร้อมให้ผลที่ดีทางด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
4.วิ่งได้ไกลและให้ความสะดวกสบาย
เมื่อไม่นานมานี้ทางออสเตรเลียได้มีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ที่ทำให้ผู้คนในประเทศรู้สึกสนใจอย่างมาก และมีการกล่าวอ้างจากผู้ผลิตว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นแบบรถบัสว่าสามารถที่จะวิ่งได้ถึง 1,000 กิโลเมตร ในการชาร์จเพียงครั้งเดียว พร้อมให้ความทันสมัยบนรถยนต์ด้วยระบบไฟฟ้าต่างๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตของคนขับและผู้โดยสารสะดวกมากยิ่งขึ้น
http://www.electronicdesign.com/power/electric-vehicle-charging-opens-new-avenues-semiconductors
ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า
1.ศูนย์บริการชาร์จไฟไม่น่ามีเพียงพอ
แน่นอนว่ามีข้อดีเรื่องประหยัดน้ำมัน ก็ย่อมมีข้อเสียเพราะจุดที่ให้บริการชาร์จไฟเข้าสู่ตัวรถยนต์จะต้องมีเพียงพอและเทียบเท่ากับปริมาณของปั๊มน้ำมันทั่วประเทศ พร้อมไปด้วยระบบการจ่ายไฟต้องมีความปลอดภัยสูง ผู้ที่ใช้รถก็ต้องศึกษาวิธีการชาร์จให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
2.ใช้เวลาในการชาร์จนาน
ถ้าสามารถชาร์จเพียงครั้งเดียวแล้วไปได้ไกลจริงก็ถือว่าดี แต่ถ้าวันนั้นมีธุระหลายที่ก็คงลำบาก เพราะการแวะเพื่อชาร์จไฟต้องใช้เวลานานพอสมควร ด้วยความที่รถยนต์ไฟฟ้ามีแบตเตอรี่ขนาดที่ใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือเป็น 10 เท่า ดังนั้นการชาร์จไฟจึงอาจนานถึง 9 ชั่วโมงต่อครั้งเลยทีเดียว
3.ราคาสูงมาก
รถยนต์ไฟฟ้าในช่วงนี้มีราคาที่สูงมาก เพราะแค่คันเล็กๆ ราคาก็พุ่งสูงไปถึง 2 ล้านกว่าบาทแล้ว และยังต้องแบกรับค่าใช้จ่ายตัวแบตเตอรี่ที่ต้องปลี่ยน 2 ปีต่อครั้ง แต่ทางค่ายรถยนต์ต่างๆ ก็กำลังมองหาวิธีการที่จะช่วยให้ผู้ซื้อได้ลดภาระค่าใช้จ่ายให้น้อยลง และพยายามที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในราคาเพียงล้านต้นๆ ให้ได้อีกด้วย
4.ระยะทางจำกัด
ใช่ว่าจะวิ่งได้ไกลดั่งใจเหมือนการเติมน้ำมัน การชาร์จ 1 ครั้ง ก็มีระยะทางที่ค่อนข้างจำกัด ซึ่งในรถขนาดกลางนั้นวิ่งได้ระยะทาง 32 กิโลเมตร ส่วนรถขนาดเล็กก็วิ่งได้ระยะทาง 280 กิโลเมตร ซึ่งระยะทางนี้เป็นการทดลองขับของทางค่ายรถยนต์ที่จำกัดความเร็วไว้ แต่ถ้านำออกมาใช้จริงคนทั่วไปก็ย่อมต้องใช้ความเร็วที่สูงกว่า ดังนั้นระยะทางก็จะสั้นลงไปอีก
รถยนต์ไฟฟ้านั้นเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการมานานพอสมควร แต่การนำออกมาขับอย่างจริงกว่าล้านคันของประเทศแถบยุโรปนั้นเริ่มขึ้นในปี 2016 แต่ก็ยังถือว่าน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เพราะยังอยู่ในช่วงของการปรับปรุงและการศึกษาปัญหาต่างๆ พร้อมด้วยการพัฒนาให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความปลอดภัยที่สูงขึ้นและเดินทางไกลมากกว่าเดิม ถ้าใครสนใจก็คาดว่าอีกประมาณ 5-10 ปีข้างหน้าก็คงจะมีโอกาสได้ซื้อใช้อย่างจริงจังแน่นอนค่ะ